05.00 น.    คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 8-9 แถว S เคาน์เตอร์สายการบิน อุซเบกิสถาน แอร์ไลน์ Uzbekistan Airways (HY) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน

08.10 น.    ออกเดินทางสู่ เมืองทาซเคนท์ ประเทศอุซเบกิสถาน โดย Uzbekistan Airways เที่ยวบินที่ HY 532 (ใช้เวลาบินประมาณ 06.10 ชั่วโมง) (รับประทานอาหารและพักผ่อนบนเครื่องบิน)

13.10 น.    เดินทางถึง สนามบินเมืองทาซเคนท์ (Tashkent International Airport) หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว นำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองทาซเค้นท์ (Tashkent) เป็นเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของประเทศ มีความหมายว่า เมืองแห่งศิลา (The City of Stone) เป็นเมืองที่ใหญ่ประกอบไปด้วยโรงงานอุตสาหกรรมและเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมในเอเชียกลาง มีประชากรประมาณ 2 ล้านคน นำท่านชมความสวยงามของเมืองหลวง ซึ่งตั้งอยู่บนเส้นทางสายไหมจากจีนสู่ยุโรป นำท่านชม จัตุรัสเสรีภาพ หรือ จัตุรัสมุสตาคิลลิก (Independence Square หรือ Mustakillik Square) เป็นหัวใจของเมืองและเป็นสัญลักษณ์แห่งอิสรภาพของคนในชาติ ชม จัตุรัสอามีร์ ตีมูร์ (Amir Timur Square) หัวใจตัวอนุสาวรีย์ทำจากสัมฤทธิ์ เป็นรูปตีมูร์ประทับบนหลังม้าอย่างสง่าผ่าเผย แล้วนำชม โรงเรียนสอนศาสนาบารักข่าน (Barak Khan Madraseh) จากนั้นนำท่านสัมผัสความงดงามของกลุ่มสถาปัตยกรรม Hazrati Imam Complex ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่ของชาวมุสลิมที่มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 ประกอบไปด้วยสิ่งปลูกสร้างที่ยิ่งใหญ่ เช่น มัสยิด โรงเรียนสอนศาสนาและพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมคัมภีร์กุรอ่านเก่าแก่ไว้มากมาย อีกทั้งยังเป็นที่เก็บรักษาคัมภีร์กุรอ่านที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอีกด้วย จากนั้นนำท่านไป ตลาดคอร์ซู (Chorsu Bazaar) ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นตลาดที่ยิ่งใหญ่ในเอเชียกลางและบนเส้นทางสายไหม ที่อยู่ภายใต้โดม 7 โดมขายผลิตภัณฑ์ต่างๆ สัมผัสกับบรรยากาศแบบย้อนยุค พร้อมเลือกซื้อสินค้าในตลาดบาซาร์ที่มีทั้งผ้าแพร พรม เครื่องทองเหลือง ผ้าขนสัตว์ เครื่องหนัง และสินค้าพื้นเมืองมากมาย

ค่ำ             บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่ที่พัก Queshbegi Plaza Hotel  หรือเทียบเท่า

เช้า            บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ชายแดนอุซเบกิสถาน-ทาจิกิสถานที่ ด่านออยเบค (ระยะทาง 165 กม./3 ชม.) หลังผ่านการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว เดินทางต่อไปยัง เมืองคูจานด์ (Khujand) เมืองที่ใหญ่อันดับสองของประเทศทาจิกิสถาน ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศ ในเขตจังหวัดซุกด์ (Soghd) และเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่โบราณ มีอายุย้อนไปถึงประมาณ 2,500 ปีก่อนในจักรวรรดิเปอร์เซีย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำซีร์ดาร์ยา ตรงปากหุบเขาฟาร์ฆอนา ฆูจันด์เป็นเมืองหลักเมืองหนึ่งในเส้นทางสายไหม หลังอะเล็กซานเดอร์มหาราชยึดเมืองนี้ได้ใน 329 ปีก่อนคริสต์ศักราช เมืองก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นอาเลกซันเดรอาเอสคาเต และตกเป็นส่วนหนึ่งของหลายจักรวรรดิตลอดทั้งประวัติศาสตร์ เช่น รัฐเคาะลีฟะฮ์อุมัยยะฮ์ (คริสต์ศตวรรษที่ 8) จักรวรรดิมองโกล (คริสต์ศตวรรษที่ 13) และจักรวรรดิรัสเซีย (คริสต์ศตวรรษที่ 19) เมืองมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามมากมาย อาทิเช่น พระราชวัง สุเหร่าและป้อมปราการ ในสมัยสหภาพโซเวียตได้เปลี่ยนชื่อเมืองนี้เป็น “เลนินกราด” ตั้งแต่ปีค.ศ.1936-1991 หลังจากนั้นสหภาพโซเวียตล่มสลาย ก็กลับมาใช้ชื่อเมืองคูจานด์ดังเดิม ในปีค.ศ.1992

เที่ยง          บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย           นำท่านชม อนุสาวรีย์อิสมาอิล โซมานี (Ismail Somani Monument) สัญลักษณ์ของการตั้งเมืองและเป็นต้นกำเนิดของกลุ่มชนเผ่าทาจิก ในยุคศตวรรษที่ 9 จากนั้น ชม ปราสาททาเมมาริค หรือป้อมปราการคูจานด์ (Temurmalik Castle หรือ Khojand Fortress) สร้างตามคำสั่งของผู้บัญชาการติเมอร์มาริค เพื่อต้านกองทัพมองโกลที่ขยายอำนาจในดินแดนนี้ในปี ค.ศ. 1219-1220 นำชม Sheikh Muslihiddin Mausoleum ผู้เป็นผู้ปกครองและกวีแห่งเมืองนี้ในศตวรรษที่ 12 ประกอบด้วยโดมที่สร้างตามศิลปะอิสลาม และหอมิเนเรตสูง 20 เมตร จากนั้นเดินทางไปสู่ ตลาดปันชานเบ บาซาร์ (Panjshanbe Bazaar) ซึ่งเป็นตลาดพื้นเมืองขนาดใหญ่ที่มีสีสันและคึกคักมากที่สุดในทาจิกิสถาน ซึ่งในอดีตเป็นเส้นทางสายไหมที่ผ่านเมืองคูจานด์แห่งนี้ ตลาดที่เมืองคูจานด์แห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นตลาดพื้นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของทาจิกิสถาน ทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองและโดดเด่นไปด้วยตัวอาคารที่มีสีสวยสดสะดุดตา ภายในมีเสาอาคารสไตล์นีโอ-คลาสสิก เรียงเป็นแถวยาวรับน้ำหนักโค้งหลังคาอย่างสวยงาม ตลาดแห่งนี้มักจะมีสีสันอยู่เสมอ เพราะไม่เพียงแต่ชาวเมืองเท่านั้น แต่ยังมีผู้มาเยือนจากต่างเมืองตลอดจนนักท่อง เที่ยวไปเยี่ยมเยือนที่ตลาดปันชานเบแห่งนี้อีกด้วย

ค่ำ             บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่ที่พัก Parliament Palace Hotel หรือเทียบเท่า

เช้า            บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เดินทางสู่ เมืองอิสตาราฟชาน (Istaravshan) (ระยะทาง 74 กม./1.10 ชม.) นำท่านชม ป้อมปราการมัคเทปเป (Mug Teppe Fortress) เป็นหนึ่งในป้อมโบราณที่เชื่อกันว่าก่อตั้ง โดยพระเจ้าไซรัสมหาราช กษัตริย์นักรบผู้ยิ่งใหญ่แห่งเปอร์เชีย เมืองนี้ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจักรวรรดิเปอร์เชียอคีเมนียะ ที่เคยถูกปกครองโดยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช โดยถูกเปลี่ยนชื่อเป็นไซโรโพล และถูกนักรบผู้ยิ่งใหญ่อีกคนที่ยึดป้อมปราการคือ เจงกิส ข่าน ภายในมีป้อมการจัดแสดงภาพถ่ายขาวดำในอาคาร แสดงให้เห็นซากปรักหักพังจำนวนมากที่ถูกทิ้งไว้เมื่อ 100 ปีที่แล้ว และได้รับการบูรณะในรูปแบบปัจจุบันในปีค.ศ. 2002 เพื่อฉลองครบรอบ 2,500 ปีของการก่อตั้งเมืองอิสตาราพชาน ในบริเวณนี้ท่านสามารถชมวิวทิวทัศน์ของเมือง เบื้องล่างและวิวเทือกเขาที่งดงามที่ทอดตัวเป็นแนวยาวจากด้านบนได้อย่างสวยงาม นำท่านชม กลุ่มอาคาร (khazrati shoh) ประกอบด้วยสุสาน khazrati shoh, สุสาน Valami สุเหร่า Namozgoh พร้อมทั้งสุสานประจำเมือง จากนั้นแวะ ตลาดอิสตาราฟชาน (Istaravshan Bazaar) โดยที่ตลาดแห่งนี้เป็นแหล่งผลิตงานช่างฝีมือหลายแขนงที่มีชื่อ เสียง อาทิ งานเหล็ก งานแกะสลักไม้ งานปั้นหม้อ งานเซรามิค พร้อมสัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนและเลือกซื้อผลไม้สด และผลไม้อบแห้งเอาไว้ทานเล่นอีกด้วย

เที่ยง          บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย           นำท่านเดินทางสู่ เมืองดูชานเบ (Dushanbe) (ระยะทาง 228 กม./4.10ชม.) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดในทาจิกิสถาน คำว่า “ดูชานเบ” ในภาษาทาจิกมีความหมายว่า "วันจันทร์" ซึ่งเป็นชื่อที่มาจากข้อเท็จจริงที่เมืองเป็นสถานที่ตั้งของหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงเรื่องตลาดวันจันทร์ ซึ่งระหว่างการเดินทาง จะผ่านทิวทัศน์เขาสูงอันสวยงามของ ช่องเขาแอนชอพพาส (Anzob  Pass) มีความสูงกว่า 3,372 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ท่านจะได้สัมผัสกับวิวภูเขาอันสลับซับ ซ้อนและสวยงามยิ่งนัก

ค่ำ             บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่ที่พัก Atlas Hotel หรือเทียบเท่า

เช้า            บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชม พิพิธภัณฑ์โบราณวัตถุแห่งชาติ (Museum National Antiquities) ซึ่งเป็นสถานที่จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์, ศิลปะวัฒนธรรม, ศาสนาพุทธในนิพพาน ถือเป็นหนึ่งในนิทรรศการอันทรงคุณค่าของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ดีที่สุดของประเทศทาจิกิสถาน ภายในจัดแสดงเรื่องราวผ่านวัตถุทางประวัติศาสตร์ร่วมสมัย และรวบรวมโบราณวัตถุล้ำค่าไว้มากมาย และสิ่งสำคัญที่ดูโดดเด่นมากที่สุดคือ องค์พระพุทธรูปปางนิพพาน ความยาว 13 เมตรที่ได้มาจากเมืองอาจินา เทปเป ทางตอนใต้ของทาจิกิสถาน จากนั้นชม อนุสาวรีย์อิสมาอิล ซามานี (Ismail Samani Monument)  บริเวณย่านนี้จัดได้ว่าเป็นจุดศูนย์รวมของเมือง โดยมีอนุสาวรีย์รูปปั้นของกษัตริย์อิสมาอิล โซมานีตั้งอยู่โดดเด่นเป็นสง่า พระองค์เป็นกษัตริย์ผู้มีพระปรีชาสามารถในการรวบรวมอาณาจักรให้

เที่ยง          บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย           นำท่านชมสวนสาธารณะใจกลางเมืองที่ตั้งชื่อเป็นเกียรติให้แก่กวีเอกชาวเปอร์เชีย “รูดากี้” สวนสาธารณะรูดากิ (Rudaki Park) เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่และดอกไม้นานาพันธุ์ ยามค่ำคืนมีการเปิดน้ำพุดนตรีอย่างสวยงาม จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองฮิสซาร์ (Hisor) ต้ังอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ห่างจากเมืองดูชานเบประมาณ 30 ก.ม. สันนิษฐานว่าหมู่บ้านแห่งนี้เคยเป็นถิ่นที่อยู่ของมนุษย์ยุคหิน ซึ่งพบเห็นจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ นำท่านชม ป้อมปราการฮิสซาร์ (Hissar Fortress) สร้างขึ้นในสมยัศตวรรษที่ 3 เพื่อเป็นปราการป้องกันและโรงเรียนสอนศาสนาแต่ต่อมาได้ถูกทำลายโดยกองทัพแดงของโซเวียต แวะชมตลาดพื้นเมือง Sakhovat Bazaar ตลาดพืชผัก ผลไม้พื้นเมืองนานาชนิด อิสระให้ท่านเดิน ชม ชิม ช้อป ตามอัธยาศัย…สมควรแก่เวลาแล้วนำท่านเดินทางกลับสู่เมืองดูชานเบ

ค่ำ             บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่ที่พัก  Atlas Hotel หรือเทียบเท่า

เช้า            บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม     

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเพนจิเคนท์ (Penjikent) (ระยะทาง 236 กม./4.10 ชม.) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในแคว้นซูกด์ ติดกับชายแดนอุซเบกิสถาน เคยเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรซอคเดียน (Sogdian) ตรงบริเวณหุบเขาซีรัฟชาน (Zeravshan Valley) (ซอคเดียน คือกลุ่มคนที่พูดภาษาอิหร่าน ซึ่งเป็นชนกลุ่มใหญ่ที่อาศัยอยู่ในแถบเอเชียกลางในยุคก่อนการเข้ามาของศาสนาอิสลาม) มีการค้นพบซากอารยธรรมศาสนาโซโรอัสเตอร์ ระหว่างทางจะ ผ่านเมืองไอนี (Ayni) แวะผ่อนคลายอิริยบถและชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวทาจิส ซึ่งอาศัยอยู่ในแถบหุบเขาสูง ก่อนเดินทางต่อ…

เที่ยง          บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย           นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์รูดากิ (Rudaki Museum) เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดในเมือง เป็นที่เก็บรวบรวมสิ่งของต่างๆ มากมายที่พบในแหล่ง Sarazm และ Ancient Panjakent บอกเล่าเรื่องราวของอารยธรรม Sogdian ซึ่งผู้คนจำนวนมากใน Panjakent สืบเชื้อสายมา พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งชื่อตาม Abu Abdullah Rudaki ซึ่งเป็นกวีชื่อดังและเป็นวีรบุรุษของชาติทาจิกิสถานจากศตวรรษที่ 10

จากนั้นนำท่านข้ามพรมแดนทาจิกิสถาน-อุซเบกิสถาน แล้วเดินทางต่อสู่ เมืองซามาร์คานด์ (Samarkand) เป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดเมืองหนึ่งในเอเชียกลาง ตั้งอยู่ในโอเอซิส ซึ่งได้รับน้ำมาจากคลองที่ขุดมาจากแม่น้ำซารัฟชาน ท่านอเล็กซาน เดอร์มหาราชได้ผ่านมาเมืองนี้เพื่อที่จะเดินทางไปยังอินเดีย จึงได้ยึดครองเอาไว้ ต่อจากนั้นก็เป็นพวกเติร์ก พวกอาหรับและพวกเปอร์เซียก็ได้เข้ามาปกครองต่อๆ กันมา เมืองนี้ ได้มีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุดในยุคกลางและในปี ค.ศ.1215 เจงกิส ข่าน ได้แผ่อาณาจักรเข้ามาควบคุมเส้นทางสายไหม และเข้ายึดเมืองนี้ ในปี ค.ศ. 1221 และอีกประมาณร้อยปีต่อมา เมืองนี้ก็เหลือแต่ซากปรักหักพัง และต่อมา ตีมูร์ข่าน ก็ได้สร้างอาณาจักรแห่งนี้ให้มีความเจริญรุ่งเรืองขึ้นมา จนได้รับสมญานามว่า “เมืองแห่งโดมสีฟ้า (The City of Blue Domes)” ในประวัติศาสตร์ ถ้านับย้อนหลังไปหลายร้อยปีและยังได้ชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดแห่งนิยาย 1001 อาหรับราตรี (1001 Arabian Nights) และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกใน ปี ค.ศ. 2001 อีกด้วย..

ค่ำ             บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่ที่พัก  AL Madina Hotel หรือเทียบเท่า

เช้า            บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม     

นำท่านชม สถานที่ฝังศพ อาเมียร์ (Amir Temur Mausoleum - Gur I Amir Complex) สร้างขึ้นโดยข่าน ตีมูร์ในปี ค.ศ. 1403 เพื่อใช้เป็นที่ฝังศพของสุลต่าน มูฮัมหมัด (Sultan Muhammad) ซึ่งเป็นหลานรักที่เสียชีวิตในเปอร์เซีย มีประตูทางเข้าก่ออิฐถือปูนตั้งเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าซุ้มโค้ง มีโดมสีฟ้าผิวลอนกระดูกงูสูงประมาณ 36 เมตร ผนัง ห้องและเพดานโค้ง ภายในประดับด้วยกระเบื้องอิฐเผาลงด้วยลายสีทอง สีอำพัน สีฟ้าน้ำทะเล แต่ก่อนหน้านั้นในปี ค.ศ. 1380 อาเมียร์ ตีมูร์ได้โปรดให้สร้างที่ฝังศพของพระองค์เตรียมไว้ก่อนที่บ้านเกิด คือ เมืองชาห์ริซาบซ์ แต่ในระหว่างที่ได้ยกทัพไปบุกจีน และได้สิ้นพระชนม์ เมื่อปี ค.ศ. 1405 จึงได้นำพระศพเดินทางกลับมาภายใน 24 ชม. เพื่อฝังตามหลักศาสนา แต่ก็ไม่สามารถทำได้ทันเวลา จึงได้ฝังไว้ที่ กูริ อาเมียร์ และต่อมาก็ได้ใช้เป็นสุสานของผู้ปกครองนครซามาร์คานด์หลายพระองค์  สถานที่แห่งนี้มีความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรมจนเป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลก...ชม สุสาน Tamerlane สุสานโบราณที่ฝังศพของผู้พิชิตชาวเอเชีย สุสานแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมสวยงามและน่าประทับใจที่สุดของเมือง เป็นอาคารทรงโดมที่ถูกทิ้งให้ถูกทำลายโดยโซเวียต แต่ได้รับการบูรณะให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในเวลาต่อมา... จากนั้นชม จตุรัสเรจีสถาน (Registan Square) เป็นจัตุรัสกลางเมืองที่มีชื่อเสียงและยิ่งใหญ่งดงามไปด้วยศิลปะอิสลาม ซึ่งถูกกล่าวขานว่ามีความงดงามที่สุดในเอเชียกลาง ตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบสีฟ้าตัดขอบด้วยสีเหลือง รายล้อมไปด้วยโรงเรียนสอนศาสนา (Madrasah) ถึง 3 แห่ง คือ อูลุค เบก (Ulug Beg) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1417-1420 และ เชียร์ ดอร์ (Shir Dor) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1619-1636 โดยเลียนแบบมาจากอูลุค เบค ผนังกำแพงมีลวดลายรูปทรงเลขาคณิต และซุ้มประตูมีรูปเสือลายพาดกลอนที่แตกต่างไปจากสถาปัตยกรรมทั่วๆ ไปของศาสนาอิสลาม ส่วน ทิลยา คารี (Tilya Kari) ถูกสร้างขึ้นอยู่ทางด้านเหนือในศตวรรษที่ 17 และใช้เวลาสร้างประมาณ 20 ปี ซึ่งผนังและซุ้มในกำแพงมีการปิดทองมากกว่าที่อื่นใด  จากนั้นนำท่านชม สุเหร่าบิบิ คะนุม  เป็นสุเหร่าที่ถูกสร้างขึ้นมาและใหญ่ที่สุดในโลกอิสลาม เพื่อแสดงให้เห็นถึงพลังอำนาจที่สามารถปกครองดินแดนได้มากกว่าใครในประวัติศาสตร์ ถูกสร้างเมื่อปี ค.ศ.1399 ใช้เวลาก่อสร้างนาน 5 ปี ใช้ช่างฝีมือ 200 คน แรงงาน 500 คน ช้างอีก 95 เชือก ด้านประตูทางเข้าสร้างเป็นอาคารสูงประมาณ 35 เมตร ทางเข้าสร้างเป็นรูปวงรี สูง 18 เมตร ตัวหอบังสูงประมาณ 50 เมตร ตรงทางเข้าสู่จัตุรัสมัสยิดมีขนาดพื้นที่ยาวประมาณ 167 เมตร และกว้าง 109 เมตร และสองข้างยังมีมัสยิดขนาดเล็ก โดยเฉพาะตัวโดมได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้ ภายในตกแต่งด้วยหินอ่อนแกะสลักโมเสครูปร่างต่างๆ เคลือบด้วยสีฟ้างดงาม เขียนภาพและอักษรด้วยสีน้ำเงินและทอง และที่หน้าสุเหร่ายังมีแท่นซึ่งเดิมวางคัมภีร์อัลกุรอ่านที่ใหญ่ถึง 2 เมตร

เที่ยง          บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย           ออกเดินทางต่อสู่ เมืองบูคาร่า Bukhara (ระยะทาง 276 ก.ม./4.30 ช.ม.  ระหว่างทางแวะ คาราวานซารายราบาติ มาลิค (Rabati Mallik Caravanserai) ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เป็นที่พักแรมของกองคาราวานบนเส้นทางสายไหมตามคำสั่งของ คาราคานิด ชามส์ อัล มัค นาสร์ บุตรชายของ ทัมกาชข่าน อิบรากิม ผู้ปกครองดินแดนซามาร์คานด์ตั้งแต่ปี ค.ศ.1068-1088 เป็นโบราณสถานที่มีค่าที่สุดทางด้านประวัติศาสตร์ในดินแดนแห่งตะวันออกกลาง และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ.2008 ราบาติ มาลิค เป็นสถานที่ที่มีความพิเศษในด้านประวัติศาสตร์ของสถาปัตยกรรมเปอร์เซียโบราณมีพื้นที่กว้างใหญ่ประมาณ 8,277 ตารางเมตร โดยเฉพาะประตูทางเข้าด้านหน้าได้ถูกสร้างขึ้นอย่างวิจิตรและมีการตกแต่งอย่างสวยงามด้วยลวดลายของส่วนโค้งที่ถูกก่อขึ้นด้วยก้อนอิฐที่มีขนาดใหญ่ แต่ละก้อนที่วัดได้ ขนาด 25x25x4 ซม. และขอบประตูยังถูกตกแต่งด้วยรูปดาวแปดเหลี่ยมที่ต่อกันอย่างสวยงามไปยังส่วนด้านบนของประตูและต่อลงมาทางด้านล่างของอีกด้านหนึ่ง

ค่ำ             บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่ที่พัก Omar Khayyam Boutique Hotel หรือเทียบเท่า

เช้า            บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชม ด้านนอกและถ่ายรูปกับ ป้อมดิอาร์ค ป้อมปราการแห่งบูคาร่า (Ark of Bukhara) ซึ่งเป็นป้อมเก่าแก่สร้างในศตวรรษที่ 5 ตั้งอยู่ใจกลางเมือง และเมื่อขึ้นไปด้านบนของป้อมจะสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองได้อย่างชัดเจน มีกําแพงล้อมรอบมีความยาวประมาณ 800 เมตร ส่วนของกําแพงมีความสูงถึง 16-20 เมตร ถูกสร้างด้วยอิฐหนาทึบและสูงใหญ่ ส่วนประตูมีซุ้มโค้งและหอคอยทั้งสองด้าน ซึ่งในอดีตภายในถูกใช้เป็นศูนย์กลางการปกครอง ชม สุเหร่าไม้ (Bolo Hauz Mosque) เป็นอาคารสุเหร่าในสมัยกลาง ถูกสร้างขึ้นไปปี ค.ศ.1712-1713 รูปแบบในการก่อสร้างประกอบไปด้วยเสาไม้ที่มีความสูงมาก อาคารด้านหน้ามีเสาไม้ประดับมากกว่า 20 ต้นรอง รับดาดฟ้าหลังคา ต่อมาในปี ค.ศ.1917 ก็ได้ใช้สถานที่แห่งนี้เป็นสุเหร่าอย่างเป็นทางการมาจนถึงปัจจุบันนี้ ชม หอโพลิ คัลยาน (Poli Kalyan Ensemble and Kalon Minaret) ถูกสร้างขึ้นใน ปี ค.ศ. 1127 โดย อาสลาน ข่าน แห่งราชวงศ์คารานิด อยู่ในการปกครองของบูคาร่า และสามารถทำให้ผู้พบเห็นต้องตกตะลึงถึงความโอ่อ่างดงามในรูปร่างของหอนี้ ส่วนที่สูงที่สุดเป็นทรงกลม หอนี้ได้ถูกออกแบบเพื่อใช้ในการทำละหมาดของชาวมุสลิม หอคอยแห่งนี้ได้ถูกซ่อมแซมขึ้นใหม่ในศตวรรษที่ 15

เที่ยง          บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย           นำท่านเดินทางสู่สถานีรถไฟ เพื่อโดยสารรถไฟสู่เมืองทาสเคนท์

14.34 น.    นำท่านโดยสารรถไฟความเร็วสูง เดินทางสู่เมืองทาสเคนท์

18.48 น.    ถึง สถานีรถไฟเมืองทาสเคนท์  แล้วนำท่านเดินทางสู่สนามบินทาสเคนท์ (บริการอาหารค่ำ-กล่อง)

22.30 น.    ออกเดินกลับสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ HY 532 (รับประทานอาหารและพักผ่อนบนเครื่องบิน)

06.40 น.     เดินทางมาถึง สนามบินสุวรรณภูมิ-กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ